บริษัท พฤกษ์ฐนน จำกัด มีทีมงานออกแบบ และ บุคคลากรที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ในการทำ RTLS Solution ให้กับโรง Petrochemical  Oil & Gas ในประเทศไทย หากท่านผู้อ่านมีความสนใจต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือข้อมูลอ้างอิง สามารถติดต่อได้ตามรายละเอียดในหน้า  CONTACT US

RTLS Solution

Access Control

Solution Access Contol สามารถควบคุมการเข้าถึงบริเวณที่จำกัดการเข้าถึงได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้สามารถจำกัดเฉพาะบุคลากรที่ได้รับอนุญาตและมีเอกสารที่สมบูรณ์และอัปเดตแล้วเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าสู่สถานที่ทำงานหรือบริเวณที่จำกัดการเข้าถึง นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มเติมการนับจำนวนบุคคลากรในการเข้าถึงสถานที่นั้นๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามีจำนวนบุคคลากรอยู่ในไซต์นั้นๆ ในเวลาใดเวลาหนึ่งเป็นจำนวนตามที่กำหนด ตั้งใจไว้

นอกจากนั้นแล้ว Solution Access Control ยังสามารถติดตามผู้มาเยือน ผู้รับเหมา และบุคลากรจากบริษัทอื่นที่มีการอนุญาตและใบอนุญาตที่เหมาะสมในการเข้าสู่ไซต์นั้นๆได้อีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถรวมกับระบบวีดีโอ เพื่อให้สามารถดูภาพสด หรือบันทึกไปยังเซิร์ฟเวอร์เพื่อนำกลับมาย้อนดูในภายหลังได้ 

Solution นี้เหมาะสำหรับ

สถานที่ทำงานที่มีแรงงานจำนวนมาก เช่น พื้นที่อุตสาหกรรมน้ำมันและแก๊ส  ไซต์ก่อสร้าง ไซต์ขุดเจาะอุโมงค์ คลังสินค้า โลจิสติกส์ โรงงานที่มีกระบวนการผลิต เป็นต้น

Real time Personnel Tracking

Solution Real time Personnel Tracking จะครอบคลุมตั้งแต่การแตะบัตรเข้าไปจนถึงการแตะบัตรออก โดยจะสามารถติดตามคนงานทั้งหมดได้แบบเรียลไทม์และระบุตำแหน่งที่แน่นอนของคนนงานเหล่านั้นผ่านการติดตามบุคลากรแบบเรียลไทม์ สามารถนำข้อมูลที่มาวิเคราะห์ได้หลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น ระบุได้ว่าคนงานอยู่ตรงจุดใดบ้าง กำลังทำงานหรือกำลังพัก  มีคอขวดเกิดขึ้นในไซต์งานหรือไม่ มีความล่าช้าเกิดขึ้นที่จุดไหน และ มีสาเหตุอะไรได้บ้าง เป็นต้น  

ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถดำเนินการเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในขณะเดียวกันก็ยังคงความปลอดภัยของคนงานได้ 

Solution นี้เหมาะสำหรับ

การติดตามบุคลากรในสถานที่ทำงานใด ๆ ที่มีคนงานจำนวนมาก เช่นในไซต์งาน ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น น้ำมันและแก๊ส การก่อสร้าง ไซต์ขุดเจาะอุโมงค์ คลังสินค้า โลจิสติกส์ โรงงานที่มีกระบวนการผลิต เป็นต้น

Real time Geo Fencing

คนงานที่ไม่ได้รับอนุญาตที่หลุดเข้าไปในพื้นที่จำกัดการเข้าถึง พื้นที่ควบคุมเข้มงวด สามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอย่างมาก คนงานเหล่านี้อาจไม่มีการฝึกอบรมด้านความปลอดภัย ใบรับรอง หรือคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับการเข้าสู่พื้นที่ที่มีการทำงานที่มีความเสี่ยงสูง

ด้วยระบบ RTLS  ใน Solution Real time Geo Fencing เราสามารถตั้งค่ารั้วภูมิศาสตร์ (geo-fences) เพื่อสร้างเขตพื้นที่จำกัดหรือรั้วเสมือนภายในสถานที่ทำงานที่ต้องการจำกัดได้ หากคนงานที่ไม่ได้รับอนุญาตพยายามเข้าสู่เขตพื้นที่จำกัดนี้ หรือหลุดเข้าไปในเขตต้องห้ามโดยไม่รู้ตัว ระบบก็จะถูกระบุตัวได้ทันที และ มีการเตือนว่าเกิดการละเมิดในการเข้าสู่พื้นที่ต้องห้ามให้กับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เจ้าหน้าที่ติดตามที่ไซต์งาน  และสามารถทำการติดตามคนงานเหล่านั้นได้ทันท่วงที ที่ตัวคนงานผู้นั้นเองก็จะได้รับการแจ้งเตือนว่าตนเองไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่เขตพื้นที่ดังกล่าวด้วย โดยจะได้รับเป็นสัญญาณเตือนบนแท็กของเขาเช่นกัน  ซึ่งเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการที่ไม่คาดคิดและเกิดอันตรายแก่ผู้ปฎิบัติงานได้ 

ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่เกิดจากบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าสู่พื้นที่เสี่ยงสูงโดยไม่มีใบอนุญาตและการฝึกอบรมที่จำเป็น และ บุคคลเหล่านั้นก็ไม่ทราบว่าตนเองได้เข้าสู่พื้นที่เสี่ยงสูงเหล่านั้น 

Solution นี้เหมาะสำหรับ
อุตสาหกรรมน้ำมันและแก๊ส อุตสาหกรรม โลจิสติกส์ การผลิต การทำเหมืองแร่ การก่อสร้าง และสภาพแวดล้อมใด ๆ ที่มีพื้นที่จำกัดการเข้าถึง

SCOUT-Smart tag

Scout-Smart tag มีลักษณะเป็นอุปกรณ์แบบสวมใส่ที่มีความทนทาน ขนาดเล็ก พร้อมหน้าจอระบบสัมผัส มีฟีเจอร์ติดตามตำแหน่ง ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยของคนงาน เช่น SOS การตรวจจับระยะใกล้ และฟีเจอร์การเก็บข้อมูลสื่อภาพและเสียง 

คุณสมบัติหลักๆ มีดังนี้

• ส่วน interact กับผู้ใช้งานหน้างาน โดยมีลักษณะ เป็นหน้าจอสัมผัสเพื่อการป้อนข้อมูลเข้า/และแสดงผลข้อมูลที่หน้างานได้อย่างง่ายดาย

• การติดตามตำแหน่งทางภูมิศาสตร์แบบเรียลไทม์ของคนงาน ผู้ใช้งาน และ การละเมิดเข้าสู่พื้นที่ต้องห้าม

• การตรวจจับและการแจ้งเตือนด้วยภาพและเสียง ตามข้อกำหนดความปลอดภัยที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้าหลายรายการ  ซึ่งรวมไปถึง
    การอพยพและการรวมพล , การละเมิดเขตรั้วภูมิศาสตร์/พื้นที่จำกัด,การตรวจจับการล้ม/การตรวจจับพบแรงเร่งสูง ,คนงานล้มลง หมดสติ (บุคคลที่ไม่ตอบสนอง),การเริ่มส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือที่ส่งโดยคนงาน (“SOS”)

• การส่งข้อมูลกลับมาที่ระบบ เมื่ออยู่ในระยะใกล้กับแท็กอื่นที่ส่งข้อมูลระยะใกล้เช่นกัน สิ่งนี้ช่วยป้องกันการชน หรือการปะทะกัน การเกิดอุบัติเหตุ ในไซต์งานได้

• การแจ้งเตือนด้วยเสียงที่อุปกรณ์ของคนงานคนหนึ่ง และอุปกรณ์ของคนงานคนอื่นๆในระยะใกล้เคียง เมื่อตรวจเจอการล้ม การละเมิดรั้วภูมิศาสตร์ หรือการอพยพ (ผู้ควบคุม SCC ระยะไกล เป็นผู้เริ่มส่งสัญญาณ )
   

Solution นี้เหมาะสำหรับ
การใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยมีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย เหมาะสำหรับอุตสาหกรรม downstream upstream การผลิต การก่อสร้าง การขุดเจาะอุโมงค์ การทำเหมือง โลจิสติกส์ หรืออุตสาหกรรมใด ๆ ที่มีแรงงานจำนวนมากในไซต์งาน

Vital Monitoring

หากต้องมีการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น พื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง พื้นที่อับอากาศ   Solution Vital Monitoring ถือว่าตอบโจทย์ในการที่จะคอยสังเกตุการณ์การทำงานหลักของร่างกายผู้ปฎิบัติงาน ซึ่งได้แก่ อัตราการหายใจ อัตราการเต้นของหัวใจ และอุณหภูมิแกนกลางของร่างกาย  หากสัญญาณชีพของผู้ปฎิบัติงานอยู่นอกช่วงปกติ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่ชัดเจน ทำให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการช่วยเหลือ สนับสนุน ได้ทันท่วงที จึงทำให้รับการดูแลทางการแพทย์ที่จำเป็นทันเวลา ทำให้การบริหารจัดการความปลอดภัยสำหรับผู้ปฎิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

คุณสมบัติหลักๆ มีดังนี้

• การติดตามสภาพร่างกายระยะไกลแบบเรียลไทม์

• เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน

• สามารถสร้างสัญญาณเตือนและการแจ้งเตือนที่สามารถตรวจสอบได้ผ่าน IIoT
   

Solution นี้เหมาะสำหรับ
ผู้ปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมน้ำมันและแก๊ส การก่อสร้าง การทำเหมือง และงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายและมีอุณหภูมิสุดขั้ว อับอากาศ และ มีปัจจัยอื่นๆที่เป็นปฏิปักษ์กับการดำรงชีพของมนุษย์เช่น มีความเข้มข้นของสารระเหยในอากาศบริเวณที่ทำงานสูง

How to use RTLS ?

RTLS at Choke point

หนึ่งในวิธีการใช้ RTLS ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการใช้ RTLS ที่จุดคับขัน (choke points) เพื่อติดตามบุคคลหรือวัตถุ 

จุดคับขัน หรือ choke point คือพื้นที่แคบที่จำกัดการเคลื่อนไหวของบุคคลหรือวัตถุ เช่น ตรงประตูหรือเส้นทางที่จำกัด และถึงแม้ว่าวัตถุจะเคลื่อนออกไปจากจุดคับขันไปแล้ว ระบบ RTLS ก็ยังสามารถตรวจจับตามไปได้ ทำให้ระบบ RTLS สามารถเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวของบุคคลหรือวัตุ หรือผู้ปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องเพื่อใช้ในการวิเคราะห์และการตัดสินใจองค์รวม

โดยระบบ RTLS สามารถสังเกตุการณ์บริเวณ choke point และ เพื่อติดตามและบันทึกการเคลื่อนไหวของบุคคลหรือทรัพย์สินหรือผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่กำหนด พื้นที่ที่จำกัดการเข้าถึง พื้นที่ต้องห้าม  

ระบบ RTLS บริเวณจุด choke point นี้มักจะใช้เทคโนโลยี RFID เพื่อตรวจจับการมีอยู่ของบุคคลหรือวัตถุ แท็ก RFID จะถูกติดตั้งไว้กับวัตถุ และระบบจะตรวจจับแท็กเมื่อผ่านจุด choe point ข้อมูลนี้สามารถนำมาใช้ในวางระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ การติดตามการเคลื่อนที่ และการสร้างข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของบุคคลหรือทรัพย์สินหรือผู้ปฏิบัติงาน

choke point ไม่เพียงแต่จำกัดการเคลื่อนไหวในสถานที่เท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเพิ่มมาตรการความปลอดภัยได้อีกด้วย โดยการติดตั้งระบบ บริเวณ choke point อย่างมีกลยุทธ์ และการวางแผนอย่างรัดกุม จะช่วยทำให้มั่นใจได้ว่าบุคคลหรือวัตถุหรือผู้ปฏิบัติงานสามารถผ่านได้เฉพาะในเส้นทางที่กำหนดเลือกไว้ตั้งแต่ต้นเท่านั้น 

สิ่งนี้ช่วยให้สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของผู้คนและวัตถุภายในสถานที่ได้เข้มงวดได้แม่นยำยิ่งขึ้น ทำให้ง่ายต่อการตรวจจับและป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต เขตหวงห้ามต่างๆ และ  เมื่อนำมาใช้กับเครื่องอ่านระยะสั้น (Short range Reader )  จุดบริเวณ choke point นี้ ยังสามารถใช้เพื่อติดตามและระบุตำแหน่งของวัตถุแบบเรียลไทม์ได้เป็นอย่างดี โดยไม่มีการรบกวนต่อบุคคลหรือวัตถุ หรือผู้ปฏิบัติงานที่กำลังผ่านไปมา

Short range Reader จะถูกใช้เพื่ออ่านแท็กและระบุตัวตน (เหมือนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรงจุดเข้าออก) ข้อมูลจะถูกส่งต่อไปยังระบบคำนวณตำแหน่ง โดยตำแหน่งของแท็กจะถูกบันทึกเป็น Reader address บุคคลที่เดินผ่านเครื่องอ่านจะไม่รู้สึกถึงการตรวจจับ แต่ Reader หรือเครื่องอ่านนั้นกำลังติดตามแท็กอยู่ ทำให้เกิดการระบุตำแหน่งสิ่งต่างๆได้แบบเรียลไทม์นั่นเอง

RTLS Zone Coverage

แตกต่างจากการใช้ RTLS ที่ choke point  เพราะเราไม่ต้องการรู้ว่ามีใครเดินผ่านจุดใดจุดหนึ่งหรือไม่  แต่วิธีการนี้ เราต้องการทราบว่า บุคคล หรือ วัตถุ หรือ ผู้ปฏิบัติงานเหล่านั้นยังอยู่ในพื้นที่ส่วนใดของอาคารหรือสถานที่หรือไม่   โดยไม่จำเป็นต้องทราบตำแหน่งที่แน่นอนของบุคคลหรือทรัพย์สิน หรือผู้ปฏิบัติงานนั้น เพียงแต่ขอให้รู้ว่ายังอยู่ในพื้นที่เฉพาะบริเวณ (โซน- Zone)หรือไม่  ซึ่งการใช้ RTLS  แบบ Zone Coverage นี้เรียกอีกอย่างว่า การระบุตำแหน่งเชิงสัญลักษณ์ (Symbolic Locating)

หลักการพื้นฐานของแนวคิดนี้ค่อนข้างเรียบง่ายกล่าวคือ เมื่อ ตรง choke point ทำหน้าที่เสมือนจุดทางเข้า และ ออกสำหรับโซน ตำแหน่ง choke point เอง จึงสามารถระบุการมีอยู่ของแท็กที่เข้าออกโซนนั้นๆได้ด้วยแค่การสังเกตุการณ์บริเวณ choke point  ถ้าแท็กเข้าไปในโซนผ่าน choke point แต่แท็กไม่ได้ออกมาผ่าน chone point นั่นก็แปลว่าแท็กในยังอยู่ในโซน หรือบริเวณที่เราสังเกตุการณ์อยู่ แต่ถ้าแท็กนั้นผ่านออกมาแล้ว แสดงว่าแท็กนั้นต้องไปอยู่โซนอื่นบริเวณใกล้เคียงเป็นต้น 

ตัวอย่างเช่นในเหมืองลึกที่มีอุโมงค์หลักหลายร้อยกิโลเมตร ที่มีบริเวณหลากหลาย เช่น บริเวณซ่อมบำรุง ห้องกู้ภัยและช่วยชีวิต บริเวณลานจอด หรือ ช่องชาร์ปด้านข้างจำนวนมาก เหมืองใต้ดินแบบนี้จำเป็นต้องระบุว่าบริเวณใด ที่บุคคล หรือ วัตถุใดสามารถอยู่ได้บ้าง RTLS จะช่วยระบุบริเวณหรือโซนต่างๆได้ เนื่องจากแต่ละบริเวณจะมี จุด choke point ซึ่งก็คือส่วนต้น และ ส่วนท้ายของแต่ละบริเวณ หรือแต่ละห้องที่อยู่ใต้ดิน โดยบางครั้งอาจจะมี choke point หลายจุด เนื่องจากแต่ละห้องใต้ดินเชื่อมต่อถึงกัน โดยการระบุโซนนั้นเราจะติดเครื่องอ่าน readerที่ระบุตัวเรียบร้อยเอาไว้แต่ละจุด choke point 

ซึ่งสำหรับอุตสาหกรรมเหมืองถึงเป็นการประหยัดต้นทุนที่มีประสิทธิภาพเนื่องจากเราแค่ต้องเปรียบเทียบค่าเพียงไม่กี่ค่าเพื่อสังเกตุการณ์ได้ครอบคลุมบริเวณเหมืองทั้งหมด 

นอกจากนี้ยังมีทางเลือกอื่นๆ ในการสังเกตุการโซน ได้แก่วิธี Precision-locating methods และมีเทคโนโลยีอื่นๆ ซึ่งสามารถแสดงลักษณะเฉพาะของแต่ละโซนได้ เช่นเทคโนโลยี คลื่น infared ซึ่งจะไม่สามารถทะลุผ่านกำแพงที่มีลักษณะเฉพาะ  อีกตัวอย่างก็คืเทคโนโลยี ultrasound นั่นเอง

RTLS PRECISION LOCATING: WIDE AREA

ระบบ RTLS  สามารถใช้ในการระบุตำแหน่งและติดตามตำแหน่งของวัตถุได้อย่างแม่นยำทั้งภายในพื้นที่กว้างและพื้นที่จำกัด (RTLS PRECISION LOCATING: WIDE AREA , RTLS PRECISION LOCATING: LOCAL AREA) 

  โดยเราสามารถนำมาใช้งานได้ดังนี้

• เพื่อติดตามและจัดการทรัพย์สิน:
  RTLS สามารถใช้ติดตาม ระบุตำแหน่งของสินค้าที่มีมูลค่าสูง โดยสามารถติดตามสินค้าได้แบบเรียลไทม์และตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าเหล่านั้นอยู่ในตำแหน่งที่ควรจะอยู่ ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากเมื่อสินค้าเหล่านั้นถูกจัดส่งไปยังสถานที่ใหม่หรือเก็บไว้ในสถานที่ที่มีการจำกัดการเข้าถึง

• เพื่อความปลอดภัยของบุคลากร:
  RTLS จะติดตามพนักงาน ที่เข้าไปอยู่ที่หน้างานที่มีสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรม RTLS สามารถใช้เพื่อติดตามตัวผู้ปฏิบัติงานในกรณีฉุกเฉิน เพื่อความปลอดภัยของพวกเขา นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือได้หากพวกเขากำลังตกอยู่ในอันตรายหรือมีอาการเจ็บป่วย

• เพื่อกระบวนการทำงานอัตโนมัติ:
  RTLS สามารถเปิดการแจ้งเตือนและส่งสัญญาณได้ เมื่อถึงเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ซึ่งสามารถนำมา ใช้สำหรับการควบคุมสินค้าคงคลังอัตโนมัติ โดยสินค้าที่จัดส่งจะถูกเช็กอินและเช็กเอาต์จากคลังสินค้าโดยอัตโนมัติ ระบบนี้ช่วยให้มั่นใจว่าการสั่งซื้อถูกดำเนินการอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

• เพื่อระบุตำแหน่งในพื้นที่กว้าง:
  RTLS สามารถใช้เพื่อติดตามและตรวจสอบพนักงานหรือทรัพย์สินที่เคลื่อนที่ระหว่างสองไซต์หรือมากกว่านั้น เหมาะสำหรับการจัดการสถานที่ที่ห่างออกไปหลายๆแห่งพร้อมกัน สามารถบันทึกข้อมูลตำแหน่งของทรัพย์สินเดียวกันที่อยู่ในสถานที่ต่างกันได้ และยังช่วยในการติดตามทรัพย์สินในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น ในคลังสินค้าได้ด้วย

พิกัดตำแหน่งแบบสัมบูรณ์ เช่น ละติจูด ลองจิจูด และความสูง นั้นสามารถกำหนดตำแหน่งที่แน่นอนของวัตถุได้ แต่อย่างไรก็ตาม เราสามารถระบุได้โดยการใช้พิกัดสัมพัทธ์เช่นกัน โดยพิกัดสัมพัทธ์นี้ จะใช้วิธีใช้จุดอ้างอิง ทิศทาง และระยะทาง

การใช้ GPS Global Positioning System ในการระบุตำแหน่งในพื้นที่กว้างนั้น (RTLS PRECISION LOCATING: WIDE AREA) ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย สัญญาณ GPS นี้ จะสามารถระบุตำแหน่งแท็กได้ เฉพาะภายนอกอาคารที่มีทัศนวิสัยเปิดโล่งถึงท้องฟ้าเท่านั้น อย่างไรก็ดีหากต้องการระบุตำแหน่งที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างภายในอาคารก็สามารถทำได้ แต่จำเป็นต้องมีตัวช่วยจากระบบ PRECISION LOCATING: LOCAL AREA มาช่วย 

การทำ PRECISION LOCATING: WIDE AREA นั้นจำเป็นต้องใช้ GPS เพื่อการนำทางในรถยนต์ เพื่อการจัดการยานพาหนะในรถจัดส่ง เพื่อการการจัดการลานเก็บของ การเก็บตู้คอนเทนเนอร์ที่เกินกำหนดใช้เช่า และ เพื่อการติดตามบุคคลเช่น นักเดินป่าระยะไกล เป็นต้น

นอกจากการทำ RTLS โดยใช้เทคโนโลยี GPS  ก็ยังมีการใช้เทคโนโลยีเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ , การใช้ WiMAX (คล้ายกับ WiFi) และการใช้ สัญญาณโทรทัศน์

ส่วน A-GPS (assisted GPS) จะใช้สำหรับเอาไว้สนับสนุนเซิร์ฟเวอร์ของสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ, WiMAX หรือการเชื่อมต่อข้อมูลแบบอื่นๆ ซึ่งจะทำให้การรวบรวมข้อมูลตำแหน่งทำได้เร็วขึ้น 

การระบุตำแหน่งด้วยเครือข่ายโทรศัพท์มือถือนั้นก็ได้รับความนิยมเช่นกันเนื่องจากมีผู้ใช้อุปกรณ์มือถือจำนวนมากอยู่ทั่วไป และ เสาสัญญาณมือถือก็ช่วยให้สามารถรับสัญญาณจากแท็กบนอุปกรณ์โทรศัพท์และ ระบุตำแหน่งในแนวราบได้ด้วยวิธี multilateration

RTLS PRECISION LOCATING: LOCAL AREA

RTLS PRECISION LOCATING: LOCAL AREA  ( การระบุตำแหน่งในพื้นที่เฉพาะ) เกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพ การทำงานโดยอัตโนมัติ และการอำนวยความสะดวกในการทำงาน รวมถึงการปรับปรุงความปลอดภัยในสถานที่ทำงานด้วยการป้องกันการชนและแจ้งเตือนคนงานเมื่อเข้าสู่พื้นที่อันตราย ในอนาคต ระบบเหล่านี้ยังสามารถตรวจจับการล้มและตรวจสอบการว่ามีอุปกรณ์ความปลอดภัยหายไปได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยให้กระบวนการบริหารจัดการสินค้าคงคลังเป็นไปโดยอัตโนมัติและปรับปรุงการซ่อมบำรุงโดยการวิเคราะห์อัตราการใช้งาน รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการสูญหายหรือการวางอุปกรณ์ผิดที่

RTLS มักถูกติดตั้งภายในอาคารในรูปแบบเครือข่ายตาข่าย (mesh network) ที่ประกอบด้วยหลายโหนด (Node) แต่ละโหนดมีเสาอากาศของตัวเอง และกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ ขึ้นอยู่กับขนาดของสถานที่ที่ต้องการครอบคลุมการสังเกตุการณ์ เราสามารถใช้โหนดแบบคงที่หรือติดตั้งแบบเคลื่อนที่เพื่อให้ครอบคลุมทุกตำแหน่งที่ต้องการ  ข้อมูลจากโหนดเหล่านี้จะถูกส่งผ่านสัญญาณ RF ไปยังตัวรับสัญญาณที่อยู่ในพื้นที่ ตัวรับสัญญาณนี้สามารถเป็นหน่วยเฉพาะที่ติดตั้งเพื่อทำหน้าที่นี้โดยตรง หรือเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายเดิมที่มีอยู่ เช่น Bluetooth หรือ WiFi ก็ได้ ตัวรับสัญญาณจะรับข้อมูลจากสัญญาณโหนดและแปลงเป็นข้อมูลที่มีความหมายเกี่ยวกับตำแหน่งที่แน่นอนของวัตถุภายในไม่กี่วินาที

ข้อได้เปรียบของเทคโนโลยี PRECISION LOCATING: LOCAL AREA  เมื่อเทียบกับระบบติดตามประเภทอื่น คือ มีความสามารถในการให้ข้อมูลตำแหน่งที่ละเอียดและแม่นยำอย่างน่าเหลือเชื่อภายในพื้นที่เฉพาะ ด้วย RTLS สามารถระบุตำแหน่งวัตถุ เช่น ยานพาหนะ หุ่นยนต์ พาเลทในคลังสินค้า เครื่องมือผ่าตัด อุปกรณ์ทางการแพทย์ และอื่น ๆ ด้วยความแม่นยำระดับมิลลิเมตร ระดับความแม่นยำนี้ทำให้สามารถติดตามวัตถุในกระบวนการซับซ้อน เช่น การผลิต สายการประกอบ และแม้กระทั่งห้องผ่าตัด

ยิ่งไปกว่านั้น โดยการรวมข้อมูลการแนะนำทิศทางเข้ากับข้อมูลตำแหน่ง นักพัฒนาสามารถสร้างแผนที่การนำทางแบบเรียลไทม์ที่สมบูรณ์ซึ่งสามารถใช้สำหรับแอปพลิเคชันการนำทางอัตโนมัติที่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงการใช้ geo-fencing ด้วย

เทคโนโลยี Real Time Location System (RTLS) ที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุ (RF) ได้ปฏิวัติหลายอุตสาหกรรมและกลายเป็นโซลูชันที่ใช้สำหรับการระบุตำแหน่งและติดตามอย่างแม่นยำ โซลูชัน RTLS ให้ความแม่นยำของตำแหน่งแบบเรียลไทม์ภายในเครือข่ายพื้นที่จำกัดด้วยความแม่นยำระดับเซนติเมตร

สิ่งนี้ช่วยให้เราสามารถระบุตำแหน่งวัตถุ เช่น ทรัพย์สิน อุปกรณ์ และแม้แต่วัสดุต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำในขณะที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับทิศทางและเส้นทางการเคลื่อนที่ของวัตถุนั้นด้วย

เทคโนโลยีพื้นฐานของ RTLS ในพื้นที่เฉพาะ (เช่นในอาคาร) ได้แก่ ดังที่แสดงข้างต้น ได้แก่:

• Dead reckoning: 

การประมาณตำแหน่งโดยอิงจากการกำหนดตำแหน่งปัจจุบันและการประมาณความเร็วและทิศทางการเคลื่อนที่

• WiFi: ใช้ตัวชี้วัดความแรงของสัญญาณที่รับ (RSSI) และความแตกต่างของเวลาการมาถึง (TDOA) สำหรับการคำนวณตำแหน่ง

• Bluetooth: จุดเข้าถึง Bluetooth ค้นหาแท็กที่อยู่ใกล้และรายงานค่า RSSI

• Active RFID: แท็กฟังข้อความจากเครื่องอ่าน RFID ส่งสัญญาณไปยังเครื่องอ่าน และใช้วิธีต่าง ๆ เช่น Time of Flight, RSSI, Time of Arrival, และ Angle of Arrival (TOA) เพื่อหาตำแหน่งแบบสามเหลี่ยม

• UWB: Ultra-wideband อาศัยแท็ก UWB ส่งพัลส์และเครื่องรับ UWB วัดเวลาและมุม

• ZigBee: ในเครือข่าย ZigBee แบบ mesh แท็กร่วมกับเราเตอร์และวัดค่าต่าง ๆ (TOA, RSSI) จากเราเตอร์ ZigBee และส่งต่อไปยัง location engine

• Passive RFID: เครื่องอ่าน RFID ใช้ RSSI และ trilateration

นอกจากที่กล่าวไปข้างต้นทั้งหมดแล้ว เรายังสามารถใช้ RTLS เพื่อ การรวมพลอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งทุกวินาทีมีความสำคัญ ด้วยโซลูชัน RTLS บุคลากรทั้งหมดสามารถถูกติดตามได้ภายในระยะสามเมตรแบบเรียลไทม์และได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วหากสถานการณ์จำเป็นต้องทำ Emergency drills ที่ต้องมีการรวมพล ก็จทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี RTLS ซึ่งนำไปสู่การลดเวลาหยุดทำงานในไซต์

Illustration by Round Icons on Unsplash