What is RTLS
Realtime Location System
#Engineering Solution Service
#Engineering Solution Service
What is RTLS ?
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ RTLS
RTLS ย่อมาจาก Real-Time Location Systems
หรือ ระบบระบุตำแหน่งแบบเรียลไทม์
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอันทรงพลังที่กำลังได้รับการยอมรับและถูกนำมาใช้อย่างรวดเร็วในหลายอุตสาหกรรม เทคโนโลยีนี้เป็นวิธีในการติดตามตำแหน่งที่แน่นอนของทั้ง บุคคล ทรัพย์สิน และวัตถุอื่นๆ แบบ เรียลไทม์
เทคโนโลยี RTLS สามารถนำมาใช้ในหลายด้าน ตั้งแต่การดูแลสุขภาพไปจนถึงในโรงงานอุตสาหกรรม ตัวอย่างเช่น
การติดตามตำแหน่งที่แน่นอนของอุปกรณ์ทางการแพทย์ บุคลากร และผู้ป่วยภายในโรงพยาบาล ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการด้านสุขภาพสามารถเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ป่วยที่อยู่ในการดูแล และ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้านบริการได้อย่างสูงสุด
ในอุตสาหกรรมการผลิต สามารถนำ RTLS มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้สินทรัพย์ในโรงงาน และความถูกต้องแม่นยำในการใช้งานสินทรัพย์ในแต่ละจุดของห่วงโซ่อุปทานด้วย
อีกการประยุกต์ใช้หนึ่งที่มีความสำคัญในการใช้ RTLS ก็คือ RTLS สามารถเอาไปใช้ในการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้จากการติดตามตำแหน่งของบุคคล และ ส่ิงของ ซึ่งข้อมูลนี้จะถูกทำเป็นรายงาน และ เอาไปวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานในธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น ปลอดภัยขึ้น
RTLS จึงเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากช่วยเพิ่มความถูกต้องแม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และ เพิ่มความปลอดภัยให้บุคคลากร
เพื่อทำความเข้าใจการทำงานของ RTLS ให้ดียิ่งขึ้น จึงขอให้นิยามเฉพาะในบทความนี้ก่อน สำหรับคำว่า “เรียลไทม์” Real-Time
“เรียลไทม์” Real-Time หมายถึงความสามารถในการรับข้อมูลได้ทันทีในขณะที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น โดยใน RTLS ระบบจะติดตามตำแหน่งที่แน่นอนของสิ่งใดสิ่งหนึ่งและอัปเดตข้อมูลการติดตามแบบเรียลไทม์ ซึ่งหมายความว่าข้อมูลจะเป็นปัจจุบันและแม่นยำอยู่เสมอ
โดยทั่วไป RTLS จะใช้คลื่นวิทยุ (Radio Frequency: RF) เช่น Wi-Fi, Bluetooth หรือเทคโนโลยี Ultra-Wideband (UWB) ในการระบุตำแหน่งและติดตามบุคคล วัตถุ และทรัพย์สิน แต่ละรายการ จะถูกติดตั้งแท็กหรือเซนเซอร์ที่ส่งสัญญาณวิทยุออกมา
สัญญาณเหล่านี้จะถูกตรวจจับโดยตัวรับสัญญาณที่ติดตั้งไว้ทั่วพื้นที่ที่ต้องการตรวจสอบ ตัวรับสัญญาณจะทำการคำนวณหาตำแหน่งโดยใช้หลักการไตรแองกูเลชัน (triangulation) เพื่อระบุตำแหน่งที่แน่นอนของแต่ละรายการบุคล วัตถุ และ ทรัพย์สินนั้นๆ
2. หลักการพื้นฐานของเทคโนโลยี RTLS
ระบบระบุตำแหน่งแบบเรียลไทม์ (Real-Time Location Systems: RTLS) เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้การผสมผสานระหว่างเซนเซอร์หลากหลายรูปแบบ และระบบติดตามหลากหลายรูปแบบเช่นกัน เพื่อระบุ ค้นหา และติดตามตำแหน่งของวัตถุหรือบุคคลในโลกจริงแบบเรียลไทม์ เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ได้ข้อมูลตำแหน่งที่แม่นยำ ซึ่งช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของวัตถุและบุคคลต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงตำแหน่งของพวกเขาหรือสิ่งของเหล่านั้น โดยเทคโนโลยี RTLS มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถนำไปใช้ประยุกต์ใช้ รวมทั้งผสมผสานกับระบบอื่น เพื่อใช้ได้ในหลายลักษณะงาน
หลักการพื้นฐานของระบบนี้ เกี่ยวข้องการกับการใช้คลื่นวิทยุในการส่งข้อมูล ซึ่งเป็นข้อมูลการติดตามระหว่างแท็ก เซนเซอร์ และตัวรับสัญญาณ
คลื่นวิทยุจะถูกปล่อยออกมาจากตัวส่งสัญญาณ เช่น แท็กหรือเซนเซอร์ ซึ่งมักจะติดตั้งไว้บนวัตถุหรือบุคคลที่ต้องการติดตาม จากนั้นคลื่นวิทยุเหล่านี้จะถูกตัวรับสัญญาณที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดรับไว้ ตัวรับสัญญาณจะประมวลผลสัญญาณที่ได้รับเพื่อตรวจคำนวณหาตำแหน่งที่แน่นอนของวัตถุหรือบุคคลที่ถูกติดตาม
ความแม่นยำของระบบ RTLS จึงขึ้นอยู่กับ
· คุณภาพของคลื่นวิทยุที่ใช้
· จำนวนของตัวส่งและตัวรับสัญญาณ
· สภาพแวดล้อมที่ระบบถูกติดตั้ง
· สิ่งกีดขวางระหว่างตัวส่งและตัวรับสัญญาณ
· สัญญาณรบกวนจากคลื่นไร้สายอื่น ๆ
จากที่ได้กล่าวไปแล้วว่า RTLS ใช้ติดตามได้ทั้งบุคคลและ สิ่งของต่างๆ จึงจะขอกล่าวแยกกันโดยสังเขปดังนี้
2.1 การติดแท็กติดตามเป็นรายบุคคล (Tagging People)
เมื่อพูดถึงเทคโนโลยี RTLS (Real-Time Location System) รุ่นล่าสุด การติดแท็กติดตามเป็นรายบุคคล จะมีการติดเครื่องมือที่เรียกว่า แท็กหรือทรานสปอนเดอร์พิเศษไว้กับตัวบุคคลแต่ละคนที่ต้องการจะติดตามการเคลื่อนไหว หรือ ตำแหน่งที่บุคคลเหล่านั้นอยู่ ณ ขณะใดขณะหนึ่ง แบบเรียลไทม์
แท็กหรือทรานสปอนเดอร์เหล่านี้มีหลากหลายรูปแบบ อาทิ เป็น บัตรขนาดเล็ก สายรัดข้อมือ สายรัดข้อเท้า คลิปติดเข็มขัด หรือคลิปติดหมวกนิรภัย
เมื่อติดแท็กแล้ว ผู้ติดตามจะสามารถติดตามและตรวจสอบการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่ถูกติดตามได้ทั่วทั้งพื้นที่ที่ต้องการ ซึ่งระบบ RTLS นี้ จะใช้ในกิจกรรมต่างๆ ของธุรกิจได้แก่ การระบุตำแหน่งของพนักงาน ผู้มาเยือนบริษัท ลูกค้า ผู้มาเยือนโรงงาน เป็นวิธีที่ล้ำสมัยในการเพิ่มความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และผลผลิต
หนึ่งในข้อดีหลักของการติดแท็กติดตามเป็นรายบุคคล ด้วยระบบ RTLS คือ
ความสามารถในการตรวจจับสถานการณ์ฉุกเฉิน หากผู้มาเยือนโรงงาน หลงทางหรือไม่สามารถติดต่อได้
ระบบ RTLS จะสามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนของพวกเขาภายได้ ซึ่งจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินสามารถค้นหาบุคคลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ (เช่นใน Zone ที่มีความอันตรายใน Plant ต่างๆ) เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของทุกคนในพื้นที่
ข้อดีอีกประการหนึ่งของการใช้ RTLS เพื่อติดแท็กบุคคลคือ
ในด้านการบริการลูกค้า ธุรกิจสามารถมอบการบริการที่ดียิ่งขึ้นได้โดยใช้ระบบ RTLS เพื่อติดตามลูกค้า ตัวอย่างเช่น บริษัทสามารถใช้ระบบเพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของลูกค้าภายในสถานที่ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาได้รับบริการอย่างทันท่วงที ลูกค้าสามารถได้รับการแจ้งเตือนเมื่อคำสั่งซื้อของพวกเขาพร้อมแล้ว หรือเมื่อสินค้าบางอย่างมีจำหน่าย รวมถึงการแจ้งเตือนส่วนบุคคลอื่น ๆ
สุดท้าย การติดแท็กบุคคลด้วย RTLS ยังเป็นประโยชน์ในด้านมาตรการรักษาความปลอดภัย สามารถระบุและติดตามบุคคลที่น่าสงสัยได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยปกป้องพนักงานและลูกค้าจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นและผู้บุกรุกที่ไม่พึงประสงค์
2.2 การติดแท็กติดตามทรัพย์สิน และอุปกรณ์เครื่องมือ ต่างๆ (Tagging assets)
ระบบระบุตำแหน่งแบบเรียลไทม์ (Real-time locating systems – RTLS) ถูกใช้เพื่อติดตามและจัดการทรัพย์สินทางกายภาพภายในสถานที่ทำงาน , ภายใน Plant และ ภายใน Warehouse ต่างๆ เช่นใน โรงงานที่มีความอันตรายสูง ใน คลังสินค้าที่มีสินค้ามีมูลค่าต่อชิ้นสูง แม้แต่กระทั่งในโรงพยาบาล ทำให้สามารถติดตามทรัพยากรต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าคงคลัง อุปกรณ์เครื่องมื แม้แต่กระทั่งบุคลากร ซึ่งแท็กเหล่านี้จะถูกตรวจสอบโดยเครือข่ายของเครื่องอ่านและเซนเซอร์ที่เชื่อมโยงเข้ากับฐานข้อมูลส่วนกลางอย่างสม่ำเสมอ เป็นปัจจุบัน
วิธีการที่ใช้คือ จะทำการติดแท็กเข้ากับวัตถุที่เกี่ยวข้อง แล้วติดตามการเคลื่อนไหวของแท็กเหล่านั้นผ่านเครื่องอ่านที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ทำงาน เครื่องอ่านจะตรวจจับแท็กเมื่ออยู่ในระยะใกล้ ทำให้สามารถติดตามตำแหน่งของวัตถุได้อย่างละเอียด
แท็กที่ติดตั้งเข้าไปจะสื่อสารกับเซ็นเซอร์ โดยส่วนมากจะเป็นแบบคลื่นวิทยุ (RF) หลากหลายรูปแบบ ซึ่งช่วยให้ระบบสามารถระบุตำแหน่งที่แม่นยำของแท็กได้ และข้อมูลดังกล่าวจะถูกส่งกลับไปยังฐานข้อมูลส่วนกลาง
นอกจากการได้รับข้อมูลเรื่องตำแหน่งแล้ว เรายังสามารถได้รับข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆที่สำคัญได้อีก เช่น อุณหภูมิ ความชื้น อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ และอื่น ๆ
ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในสถานที่ทำงานได้ ตัวอย่างเช่น หากพื้นที่ใดมีอุณหภูมิสูง ระบบ RTLS สามารถให้ข้อมูลเพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานทำงานอยู่ในสภาวะที่ปลอดภัย เป็นต้น
นอกจากนี้ เราสามารถประยุกต์ใช้ RLTS ในการจัดการทรัพย์สินและการควบคุมสินค้าคงคลัง โดยจะทำการติดแท็กให้กับทรัพย์สินและติดตามผ่านระบบส่วนกลาง
ธุรกิจสามารถตรวจสอบตำแหน่งและสภาพของทรัพย์สินได้แบบเรียลไทม์ โดยเฉพาะเราจะเลือกติดแท็กให้กับอุปกรณ์ที่มักสูญหายได้ง่าย และ มีราคาสูง ในพื้นที่ขนาดใหญ่ (เช่น โรงพยาบาลหรือโรงงาน) RTLS ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการทรัพย์สิน (ที่ติดแท็กไว้) และสินค้าคงคลังได้ดีขึ้น ส่งผลให้การใช้ทรัพยากรมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพิ่มประสิทธิผลในการดำเนินงาน
นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลย้อนหลังเกี่ยวกับตำแหน่งที่ทรัพย์สินเคยอยู่เพื่อการวางแผนการบริหารจัดการในอนาคตอีกด้วย
3. องค์ประกอบพื้นฐานของ RTLS
ประกอบด้วยแท็ก( tag ) , เครื่องอ่าน (Readers) และ ซอฟแวร์แพลทฟอร์ม ( Centralize Software Platform )
แท็ก (Tags) มีลักษณะเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็ก จะติดไว้ กับตัวบุคคล หรือ ทรัพย์สิน หรือ อาจจะเป็นวิธีการฝังไว้ในอุปกรณ์ก็ได้โดย รูปแบบแท็กที่นิยมใช้ คือ แบบ Active RFID เนื่องจาก ให้ความแม่นยำและเชื่อถือได้ในการติดตาม แท็กมีหลายรูปทรงและขนาด และอาจมีเซนเซอร์ในตัวสำหรับการเก็บข้อมูลเพิ่มเติมดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น
เครื่องอ่าน (Readers) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่รับข้อมูลจาก tag แล้วส่งข้อมูลนั้นต่อไปยังซอฟแวร์แพลตฟอร์ม โดยทั่วไปเครื่องอ่านจะถูกติดตั้งบนผนัง เสา หรือจุดคงที่อื่น ๆ ในบริเวณ และสามารถทำการสแกนแท็กที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง แล้วส่งข้อมูลกลับไปยังซอฟแวร์แพลตฟอร์มส่วนกลางได้ตลอดเวลา
ซอฟต์แวร์แพลทฟอร์ม (Software platform) เป็นระบบประมวลผล จัดการ และจัดเก็บข้อมูลที่รวบรวมได้จากเครื่องอ่าน สามารถวิเคราะห์ และแสดงผล เพื่อนำข้อมูลวิเคราะห์ที่ได้มาใช้ในการบริหารจัดการ แพลตฟอร์มนี้ยังสามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือนเมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหรือผิดปกติเกิดขึ้นได้อีกด้วย
3.1 แท็ก (Tags)
นอกจาก Tag จะใช้ติดบนอุปกรณ์ บนทรัพย์สิน หรือ ที่ตัวบุคคลเพื่อติดตามตำแหน่งและการเคลื่อนไหวแล้ว Tag ยังสามารถให้ข้อมูลที่มีประโยชน์อื่น ๆ เช่น อุณหภูมิ ความชื้น ความดัน และระดับการสั่นสะเทือนด้วย การใช้แท็กร่วมกับระบบ RTLS ช่วยให้สามารถตรวจสอบและจัดการปัจจัยดังกล่าวข้างต้นได้จากระยะไกลด้วยความง่ายดาย และยังสามารถใช้เพื่อกระตุ้น และ activate ระบบการทำงานบางอย่างเพิ่มเติมได้อีกด้วย เช่น การเปิดสัญญาณเตือนเมื่อมีเงื่อนไขบางประการเกิดขึ้น
ด้วยความสามารถนี้ ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนและการเตือนภัยแบบกำหนดเอง เพื่อช่วยให้ทรัพย์สิน บุคลากร และการดำเนินงานของบุคคลากรปลอดภัยตลอดเวลา
หลักการการทำงานของ tag
ตัว tag จะส่งสัญญาณออกมา แล้ว เครื่องรับ (Reader หรือ Transponder ที่ถูกติดตั้งยึดกับที่จำนวนหลายตัว ครอบคลุมทั้งบริเวณที่ต้องการติดตาม และทำหน้าที่แบบโครงข่าย) จะตรวจจับสัญญาณ อุปกรณ์เหล่านี้มีหลายแบบเช่น เซนเซอร์, ดาวเทียม , บีคอน เมื่อเครื่องรับตรวจจับสัญญาณได้แล้วก็จะคำนวณตำแหน่งของ tag โดยใช้การวัดระยะ (triangulation) เพื่อระบุตำแหน่งที่แน่นอนของ tag อีกที
ชนิดของ tag
1. แท็กแบบพาสซีฟ (Passive tags)
จะทำหน้าที่รับสัญญาณกระตุ้นผ่านเสาอากาศที่ตัวมัน จากนั้นจะตอบกลับโดยการส่งข้อมูลที่เก็บไว้ก่อนออกมา เนื่องจากแท็กประเภทนี้ไม่มีแบตเตอรี่ในตัว มันจะได้รับพลังงานจากสนามคลื่นวิทยุ (RF field) ที่ถูกปล่อยออกมาจากตัวอ่านสัญญาณ (interrogator) ดังนั้น ระยะการทำงานจึงเป็นไปได้จำกัด (ประมาณ 10 เมตร)
2. แท็กแบบกึ่งพาสซีฟ (Semi-passive tags)
เป็นแท็กที่มีแบตเตอรี่ในตัว แต่จะไม่เริ่มการสื่อสารเองเหมือนแท็กแอกทีฟ ซึ่งการที่มีแบตเตอรี่นี้ จะช่วยให้ tag มีระยะการทำงานที่ไกลขึ้น หรือใช้สำหรับตรวจวัดสภาวะแวดล้อมได้
3. แท็กแบบแอคทีฟ (Active RTLS tags)
เป็น tag ที่ใช้แหล่งพลังงานโดยใช้แบตเตอรี่ของตัวเองและสามารถสื่อสารให้ข้อมูลได้โดยไม่ต้องรอถูกกระตุ้นจากอุปกรณ์อื่นๆ ทำให้สามารถระบุตำแหน่งตัวเองได้แบบเรียลไทม์ จะเห็นว่าชนิดของแบตเตอรี่และอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ รวมทั้ง วิธีการใช้พลังงาน (เช่น ช่วงเวลาในการส่งสัญญาณ ความแรงของสัญญาณ เป็นต้น) จะเป็นตัวกำหนดอายุการใช้งานของแท็กประเภทนี้
3.2 เครื่องอ่าน (Readers)
เครื่องอ่านเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบระบุตำแหน่งแบบเรียลไทม์ (Real-Time Location System – RTLS) โดยทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลตำแหน่งจากแท็กหรือเซนเซอร์ประเภทอื่น ๆ แล้วส่งข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบ เครื่องอ่านมีหลากหลายรูปทรงและขนาด ขึ้นอยู่กับการใช้งานที่ออกแบบไว้ ซึ่งอาจมีตั้งแต่เครื่องอ่านขนาดเล็กที่ใช้พลังงานต่ำและใช้แบตเตอรี่ ที่สามารถวางไว้ที่ใดก็ได้ภายในสถานที่ ไปจนถึงเครื่องอ่านที่มีความซับซ้อนมากขึ้นซึ่งต้องใช้พลังงานจากภายนอกและสามารถติดตั้งบนผนังหรือโครงเพดานได้
ชนิดของเครื่องอ่าน
1. เครื่องอ่านแบบติดตั้งถาวร (fixed reader) เป็นประเภทของเครื่องอ่าน RTLS ที่พบบ่อยที่สุด จะถูกติดตั้งอย่างถาวรในตำแหน่งที่กำหนดไว้ และสื่อสารแบบไร้สายกับแท็กหรือเซนเซอร์เพื่อรวบรวมข้อมูล ข้อดีของเครื่องอ่านแบบติดตั้งถาวรคือ สามารถครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดที่ต้องการควบคุมได้อย่างดี
2. เครื่องอ่านแบบเคลื่อนที่ (mobile reader) มักใช้ในงานที่ต้องการครอบคลุมพื้นที่กว้าง เช่น การติดตามทรัพย์สินในคลังสินค้าขนาดใหญ่หรือพื้นที่ภายนอก เครื่องอ่านแบบเคลื่อนที่มักใช้พลังงานจากแบตเตอรี่และสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระภายในพื้นที่ เพื่อใช้ติดตามทรัพย์สินที่มีการเคลื่อนไหว
3. เครื่องอ่านแบบพิเศษ (special readers) ออกแบบมาสำหรับการใช้งานเฉพาะทาง เช่น การติดตามทรัพย์สินใต้น้ำ หรือการอ่านแท็กระยะไกล เครื่องอ่านเหล่านี้มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษ เช่น ความไวในการตรวจจับที่สูงขึ้น การป้องกันน้ำ และระยะการอ่านที่ยาวขึ้น เพื่อให้ตรงตามความต้องการของการใช้งานในแต่ละประเภท
3.3 โครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย
( ซอฟต์แวร์แพลทฟอร์ม Software platformอยู่ในส่วนนี้)
ระบบระบุตำแหน่งแบบเรียลไทม์ (RTLS) อาศัยโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่ายในการเก็บรวบรวมและส่งต่อข้อมูลจากแท็ก
โดยแท็กจะส่งข้อมูลไปยังเครื่องอ่าน (แท็กบางประเภทสามารถโปรแกรมให้มีการทำงานเฉพาะ เช่น การติดตามตำแหน่ง การแจ้งเตือน และการเก็บข้อมูล)
เครื่องอ่านจะรับข้อมูลจากแท็ก โดยทั่วไปภายในจะมีตัวรับส่งสัญญาณวิทยุที่ช่วยให้สามารถสื่อสารกับแท็กได้ในช่วงความถี่ที่กำหนด เครื่องอ่านมักถูกติดตั้งในตำแหน่งที่แน่นอนทั่วพื้นที่ที่ต้องการติดตาม เช่น ตามทางเดินหรือใกล้ประตู สำหรับการระบุตำแหน่งที่แม่นยำ จะมีการเพิ่มเซนเซอร์เข้าไปในเครือข่ายเพื่อให้ข้อมูลอ้างอิงตำแหน่ง
ระบบควบคุมมีหน้าที่บริหารจัดการทุกส่วนของการทำงานในระบบ RTLS รวมถึงการเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ และการรายงาน โดยทั่วไปจะประกอบด้วยเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเครื่องอ่านผ่านเครือข่ายสื่อสารบางประเภท (เช่น Wi-Fi) ระบบควบคุมจะต้องปะรกอบไปด้วยซอฟต์แวร์แพลทฟอร์มสำหรับจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บรวบรวมมา
หมายเหตุ
แท็กเป็นส่วนสำคัญของระบบ RTLS ทุกประเภท แท็กเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ใช้ติดกับวัตถุหรือบุคคล เพื่อให้สามารถติดตามตำแหน่งได้อย่างแม่นยำและเก็บข้อมูลได้ต่อเนื่อง
แท็กแบบแอ็กทีฟใช้แบตเตอรี่ของตัวเองและสามารถสื่อสารได้โดยไม่ต้องรอการกระตุ้น (ต่างจากแท็กแบบพาสซีฟ)
เครื่องอ่านมีหน้าที่รวบรวมข้อมูลตำแหน่งจากแท็กหรือจากเซนเซอร์ประเภทอื่น และส่งต่อข้อมูลนั้นไปยังระบบควบคุมที่มี Software ทำงานอยู่
Reference & Article Reference
Illustration by Round Icons on Unsplash